นวดยังไงก็ไม่ดีขึ้น รักษากี่รอบ ก็ยังไม่หาย
"ให้ทุกอาการปวดจบที่เรา"

รักษาโดยนักกายภาพบำบัดที่มี่ประสบการณ์
วินิจฉัยแม่นยำ รักษาตรงจุด ผู้รับบริการจะรู้สึกดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก
ไม่เลี้ยงไข้ ไม่เน้นขายครอส
✔️ ค่ารักษาเบิกประกันได้

พิเศษ ปรึกษาและรับการตรวจร่างกายฟรี

ไม่เลี้ยงไข้ ไม่เน้นขายครอส

รักษาด้วยใจประดุจญาติมิตร

เครื่องมือรักษาทันสมัย

การใช้เครื่องมือต่างๆ จะช่วยให้ผู้รับบริการหายปวดได้ไวขึ้น อย่างไรก็ตาม หลายๆคลินิกอาจจะมีเครื่องมือการรักษาที่คล้ายกัน แต่การเลือกใช้เครื่องมือให้ตรงจุด ครอบคลุมบริเวณที่เกิดอาการนั้นสำคัญกว่า ซึ่งการใช้เครื่องมือรักษาของคลินิก จะกระทำโดยนักกายภาพบำบัดทุกขั้นตอน

จุดเด่น คือ ประสบการณ์

คลินิกคัดเลือกเฉพาะนักกายภาพบำบัดที่ชำนาญการ ประสบการณ์รักษามากกว่า 10 ปีขึ้นไป วินิจฉัยแม่นยำ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับการรักษาอย่างตรงจุด

After Care Service มุ่งมั่นมอบบริการที่ดีที่สุด

มีการติดตามผลต่อเนื่อง และให้คำปรึกษาตลอดหลังการรักษา ซึ่งผู้รับบริการกับเราสามารถติดต่อสอบถามนักกายภาพบำบัดได้ 24 ชม.

บริการของเรา

คลินิกของเรารักษาแบบ Tailor-Made ทุกเคส โดยออกแบบแผนการรักษาละเอียด เน้นแก้ปัญหาตามรายบุคคล วิเคราะห์ตั้งแต่กิจวัตรประจำวัน และสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ อาการปวด พร้อมวางแผนการรักษา แก้ไขปัญหา ตั้งแต่ต้นเหตุจนถึงปลายเหตุ โดยวิธีหัตถการโดยนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และเครื่องมือที่ทันสมัย

ทีมงานของเรา

ทีมนักกายภาพบำบัดมากประสบการณ์ เป็นทั้งอาจารย์และวิทยากรรับเชิญพิเศษ
รวมถึงมีบทความวิจัยที่ได้ตีพิมพ์มากมาย
อาจารย์นุ๊ก-กภ.วีระชัย จิตภักดี Bodyset-physical-therapist

กภ.วีระชัย จิตภักดี

นักกายภาพบำบัด
อาจารย์ปอ-กภ. วรวรรณ หัตถโชติ Bodyset-physical-therapist

กภ.วรวรรณ หัตถโชติ

นักกายภาพบำบัด

โรคยอดฮิต รักษาได้ด้วยกายภาพบำบัด

รักษาตรงจุด รู้สึกดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก นอกจากนี้ ผู้รับบริการจะได้รับความรู้คำแนะนำเรื่องในเรื่องของการปฏิบัติตัว เพื่อป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติม และยังได้ท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล เสริมสร้างกล้ามเนื้อที่มีปัญหาให้แข็งแรง ออกแบบโดยนักกายภาพบำบัด เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไร้อาการปวด

คำถาม ที่พบบ่อย

กายภาพบำบัด คือ ศาสตร์ในการฟื้นฟูและรักษาสุขภาพแขนงหนึ่ง เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามสมรรถนะของร่างกายได้อย่างมีคุณภาพที่สุด ผ่านเทคนิคการบำบัดด้วยมือ เครื่องมือเฉพาะทางกายภาพบำบัดและการออกกำลังกาย

หากอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัว หรือใส่อุปกรณ์เสริมในร่างกาย เช่น อุปกรณ์เหล็ก เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ เพราะการทำกายภาพบำบัดอาจส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์เสริม และโรคประจำตัวได้

การทำกายภาพบำบัดด้วยการนวดคลึงอาจทำให้ความดันสูงขึ้น และอาจเป็นอันตรายกับโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับหัวใจได้หากไม่ระมัดระวัง เพราะเหตุนี้ก่อนทำกายภาพบำบัดจึงมักวัดความดันก่อนเสมอ หรือหากเป็นเบาหวานที่มีผลข้างเคียงด้านการรับรู้ความรู้สึกลดลง (Loss sensation) อาจได้รับผลกระทบจากการประคบร้อนโดยไม่รู้ตัว หากใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ

นักกายภาพบำบัดจะหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนกระแสไฟฟ้า หรือหากใส่อุปกรณ์ที่เป็นเหล็กในร่างกาย นักกายภายบำบัดจะหลีกเลี่ยงการใช้อัลตราซาวด์ในบริเวณที่ใส่เหล็ก เพราะเหล็กจะเหนี่ยวนำความร้อนได้ง่าย

– ผู้ที่มีอาการปวดทางระบบกระดูก และกล้ามเนื้อ เช่น ปวดคอ บ่า หลัง เข่า

– ผู้ที่มีภาวะข้อติด เช่น ข้อไหล่ติด นิ้วล็อค 

– ผู้ที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพฤกษ์ อัมพาต

– อาการชา จากการถูกกดทับของเส้นประสาท

– ผู้ที่ปัญหาการทรงตัว และ การเดิน 

– ผู้ป่วยหลังผ่าตัด เช่น ผ่าตัดเข่า ผ่าตัดสะโพก

การทำกายภาพบำบัดไม่จำเป็นต้องรอให้แพทย์เป็นผู้สั่ง หากมีอาการปวดจากการใช้งานอวัยวะต่างๆ ผิดท่า ก็สามารถมาใช้บริการกายภาพบำบัดได้เช่นกัน แต่หากมีอาการป่วยรุนแรง หรือบาดเจ็บหนัก ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาก่อน และอาจทำกายภาพบำบัดควบคู่กันเพื่อฟื้นฟูได้เมื่อแพทย์อนุญาต

ภาวะที่ควรงดโปรแกรมการรักษากายภาพบำบัด ได้แก่

  • หลังการรักษาด้วยการฝังเข็ม ฉีดยา
  • การผ่าตัดต้อหรือเลนส์ตาภายใน 1 เดือน
  • หลังทำเลเซอร์ดวงตา
  • หลังการอุดฟัน ถอนฟัน
  • มีอาการท้องเสีย อ่อนเพลีย
  • มีอาการเวียนศีรษะ อาเจียน
  • มีไข้ เป็นหวัด ไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก
  • มีสัญญาณชีพผิดปกติ ดังนี้ – ความดันโลหิต มากกว่า 160/100 mmHg หรือ น้อยกว่า 90/50 mmHg
  • อัตราการเต้นหัวใจ มากกว่า 100 ครั้งต่อนาที หรือน้อยกว่า 50 ครั้งต่อนาที
  • มีไข้หรืออุณหภูมิร่างกาย มากกว่า 37.5 องศา

คนอ้วน ไขมันเยอะ สามารถเข้ารับบริการได้ หากมีไขมันที่หนา นักกายภาพบำบัดอาจต้องใช้แรงเยอะขึ้น ผู้รับบริการที่มีไขมันเยอะก็อาจเจ็บมากกว่าคนผอมเนื่องจากแรงเสียดสีระหว่างรับบริการ แต่ผลการรักษานั้นไม่แตกต่างกัน

ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บของคุณ นักบำบัดของเราจะเป็นผู้ประเมินว่า คุณควรมาทำกายภาพบำบัดบ่อยแค่ไหน แต่อาการบาดเจ็บบางอย่างก็สามารถกายภาพบำบัดให้หายได้ภายในครั้งเดียว ในขณะที่บางอาการอาจใช้เวลาในการบำบัดรักษานานเป็นสัปดาห์หรืออาจเป็นเดือนได้

เบื้องต้นแนะนำเข้ารับการรักษา

  • สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อประเมินการตอบสนองต่อการรักษาก่อนค่ะ

  • ส่วนใหญ่การปวดจะลดลงกว่าครึ่งนึงเลยค่ะ ในการรักษาต่อเนื่องประมาณ 4 ครั้ง

ราคาขึ้นอยู่กับอาการและการตรวจประเมินของผู้ป่วยแต่ละคน โดยราคาในการรักษาแต่ละครั้ง จะมีการแจ้งก่อนทำการรักษาค่ะ

Google Map คลินิกกายภาพบำบัด Bodyset

Previous slide
Next slide
เดินทางสะดวก

ตั้งอยู่ในทำเลกลางใจเมือง

ที่จอดรถ

บริเวณจอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย

บรรยากาศ

อบอุ่น ผ่อนคลาย เป็นส่วนตัว