
PMS เครื่องกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation)
เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้การส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปกระตุ้นส่วนต่าง ๆ ในร่างกายเพื่อบำบัดอาการปวดและชา และกระตุ้นฟื้นฟูเนื่อเยื่อและประสาทส่วนปลายที่เสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อนำเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้การส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้มาใช้ในการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมแล้ว พบว่าได้ผลดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และเหมาะกับการใช้รักษาอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องมาทำการรักษาบ่อย ๆ แต่มีข้อแนะนำว่า ควรรักษาควบคู่กันไปกับการทำกายภาพบำบัด เพื่อประสิทธิภาพการรักษาที่ดีที่สุด
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน..
Peripheral Magnetic Stimulation (PMS กายภาพ)
Peripheral Magnetic Stimulation (PMS กายภาพ) คือ เครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นที่เส้นประสาทโดยตรง ด้วยความแรงคลื่นแม่เหล็กที่มีถึง 3 Tesla โดยทางการแพทย์ที่เรียกว่า Electromagnetic โดยเครื่องจะปล่อยกระแสไฟฟ้าไปที่ขดลวดที่อยู่บริเวณหัว Coil เกิดเป็น คลื่นแม่เหล็ก แบบ near field
การรักษาอาการด้วยเครื่อง PMS กายภาพ ไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบ และยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายในการรักษา ช่วยฟื้นฟูความบกพร่องในการทำงานของระบบประสาท ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ของระบบประสาท (Neuroplasticity) ที่ผิดปกติให้กลับมาเป็นปกติได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยลดอาการเจ็บปวดเรื้อรังของผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี
หลักการทำงานของเครื่อง PMS เมื่ออาการปวดเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การปวดจากกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือจากเส้นประสาท เครื่องจะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปกระตุ้นไปที่เส้นประสาท เพื่อส่งสัญญาณไปยังสมอง กระตุ้นให้สมองสั่งการส่งสัญญาณมายังบริเวณที่มีอาการ เพื่อยับยั้งอาการปวดและปรับการทำงานของเส้นประสาทใหม่
อาการแบบไหนที่ควรรักษาด้วยเครื่อง PMS กายภาพ
หลายคนที่เริ่มมีอาการเป็นออฟฟิศซินโดรม รู้สึกปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ สะบัก และบริเวณหลัง หรือเริ่มเกิดอาการชาตามมือ นิ้วมือ และเท้า ซึ่งโดยมากจะเกิดจากการที่เส้นประสาทถูกกดทับ (Compressive Neuropathy) ผู้ที่เริ่มมีอาการเหล่านี้อาจจะตั้งคำถามที่ว่า อาการแบบไหนที่ควรจะกายภาพโดยใช้เครื่อง pms สำหรับกระตุ้นระบบประสาทจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากันแน่ เพื่อเข้าสู่การกายภาพบำบัด โดยอาการที่ควรรักษามี ดังนี้
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
จัดอยู่ในกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) มักเกิดจากการที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำไปมา เป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง โดยทำให้เส้นประสาทจดจำอาการปวดนั้นในรูปแบบของอาการปวดเรื้อรัง ดังนั้นการใช้ เครื่อง PMS กายภาพ จะช่วยปรับการทำงานของเส้นประสาทใหม่ให้เส้นประสาทเรียนรู้เพื่อลดอาการปวดเรื้อรังที่เกิดขึ้น
อาการชาที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท
สามารถเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย อาทิ ความผิดปกติของระบบประสาทรับความรู้สึกของนิ้วมือ หรือเท้าได้รับการกระทบกระเทือนหรือเกิดความเสียหายอาการชามือชา ขาชา เท้าชา ซึ่งเป็นผลมาจากเส้นประสาทถูกกดทับ ความผิดปกติของปลายประสาท
- อาการปวดจากเส้นประสาท เกิดจากการอักเสบของตัวเส้นประสาท (radicular pain) อาการจะเกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทได้รับการกดทับ หรือได้รับการบาดเจ็บ เช่น หมอนรองกระดูกหลังแตกเคลื่อนทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อที่อักเสบทับเส้นประสาท อุบัติเหตุต่าง ๆ ที่มีการกระแทกโดยตรงต่อตัวเส้นประสาท
- อาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการเล่นกีฬาบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เอ็น และกระดูก เช่น อาการเคล็ดขัดยอกต่าง ๆ เราสามารถใช้ PMS เพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมระบบประสาทส่วนที่มีการเสียหายให้กลับมาเป็นปกติได้เร็วยิ่งขึ้น
- อาการที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke คือ ภาวะสมองขาดเลือดที่เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบ อุดตันหรือมีเลือดออกในสมอง หรืออาการเส้นเลือดในสมองตีบ เพิ่มความแข็งแรงและชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อในผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต
- อาการกลุ่มโรคกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลัง ทำให้มีอาการเหมือนปวดร้าวลงขา หรือถ้าเป็นที่กระดูกบริเวณต้นคอ ก็จะมีอาการปวดร้าวลงแขน โดยพบว่าคลื่นแม่เหล็กสามารถใช้ในการกระตุ้นลงลึกได้ถึงรากประสาทโดยตรง อีกทั้งยังช่วยเร่งการฟื้นตัวของเส้นประสาทที่บาดเจ็บการกดทับรากประสาทที่คอและเอวจากโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือเสื่อมได้อีกด้วย
- อาการของระบบปัสสาวะเล็ด สำหรับผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการรักษาระบบทางเดินปัสสาวะ เริ่มมีอาการปัสสาวะเล็ด กลั้นไม่อยู่
รักษา PMS กายภาพ นานแค่ไหนถึงเห็นผล
การใช้เครื่อง PMS กายภาพเพื่อกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ปกติแล้วจะใช้ระยะเวลา 10-20 นาทีต่อครั้ง แต่ต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่ของการเกิดอาการและความเรื้อรังของกลุ่มอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนจำนวนครั้งในการรักษาขึ้นกับอาการและแพทย์พิจารณา โดยการรักษาจะเห็นผล ดังนี้
- กลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมและอาการปวดต่างๆ ปวดไม่มากหรือปวดเพียงแค่บางจุดไม่ได้ทั่วทั้งตัว การรักษาด้วยเครื่องPMS จะเห็นผลทันทีหลังจากเข้ารับการบำบัด อาการปวดดีขึ้น เห็นผลได้ใน 1 – 2 ครั้ง
- กลุ่มอาการชาต่างๆ อาทิ มือชา ขาชา เท้าชา ทั้งที่เกิดจากปลายประสาทอักเสบหรือจากกลุ่มโรคกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกเคลื่อน การใช้เครื่อง PMS กายภาพ สามารถรักษาให้อาการดีขึ้นประมาณ 50-100%
- กลุ่มบาดเจ็บเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุกล้ามเนื้อเอ็น และกระดูก การใช้เครื่อง PMS จะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมระบบประสาทให้กลับมาเป็นปกติได้เร็วยิ่งขึ้น
- กลุ่มอัมพฤกษ์ อัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนแรงอาการเกร็ง การใช้เครื่อง PMS กระตุ้นลงลึกได้ถึงรากประสาทโดยตรง อีกทั้งยังช่วยเร่งการฟื้นตัวของเส้นประสาท ใช้ระยะเวลาทำ 3 – 5 ครั้งต่อสัปดาห์ สามารถฟื้นฟูการทำงานของเส้นประสาท ทำให้สั่งการกล้ามเนื้อให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและลดเกร็งได้ดี เห็นผลหลังการรักษากลุ่มอาการเรื้อรังจากข้อไหล่ติดไม่มาก สามารถยกแขนได้ ทำ PMS 1 – 2 ครั้ง ร่วมกับเทคนิคทางกายภาพด้วยการดัดดึงข้อต่อเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเครื่องมือนวัตกรรมที่มีอยู่ในคลินิกร่วมด้วยเพื่อเร่งกระบวนการซ่อมแซมเส้นเอ็นและเนื้อเยื่อรอบๆ เช่น TECAR therapy (เครื่องให้การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ) หรือ Focus shockwave เป็นต้น
ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดและยังมีอาการปวดหรืออาการชาหลงเหลืออยู่ สามารถทำกายภาพด้วยเครื่อง PMS ต่อเนื่อง 3 – 5 ครั้ง ต่อสัปดาห์ จะเห็นผลลัพท์ที่ดีขึ้นในระยะเวลาประมาณ 2 อาทิตย์
ขั้นตอนการรักษาใช้เครื่อง PMS
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้ดุลยพินิจซึ่งขึ้นอยู่กับอาการหรือบริเวณที่ผู้ป่วยรู้สึกปวด เพราะอาการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงจะต้องเลือกโปรโตคอลเช่น ความแรง (Intensity), ความถี่ (Frequency)ของ เครื่อง PMS กายภาพ ตามความเหมาะสม เช่น หากรักษาออฟฟิศซินโดรมจะใช้เครื่อง PMS เพียงสั้นๆ ไม่เกิน 30 นาที ซึ่งการรักษามีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน เพียงแค่นอนลง แพทย์หรือนักกายภาพจะใช้ส่วนหัวคอยล์ของเครื่องทาบลงบนกล้ามเนื้อส่วนที่ต้องการรักษา แล้วค่อย ๆ เลื่อนไปมา เพื่อค้นหาจุดเจ็บที่เป็นปัญหา โดยผู้ป่วยจะรู้สึกเพียงกล้ามเนื้อกระตุกๆ และเมื่อเจอบริเวณหรือจุดที่มีปัญหารู้สึกถึงอาการปวดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเป็นอาการปวดที่ทนได้ (Good pain)
ผู้ที่ไม่เหมาะการใช้เครื่อง PMS
แม้ว่าการใช้เครื่อง PMS กายภาพ จะมีความปลอดภัยและเหมาะกับการกายภาพบำบัดรักษาฟื้นฟูอาการให้ดีขึ้น ในกลุ่มอาการโรคออฟฟิศซินโดรม นักกีฬาบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม ปวด ชา ตลอดจนกลุ่มผู้ป่วยโรคระบบประสาท อัมพฤกษ์ อัมพาต แต่การเข้าใช้เครื่อง PMS มีข้อจำกัดกับผู้ป่วยที่มีการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ยังทำการรักษา นอกจากนี้ผู้ที่มีโลหะติดตัวในบริเวณที่จะทำการรักษา ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่ติดขดลวด ในร่างกาย และจำเป็นต้องถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะติดตัว อุปกรณ์สื่อสารอิเลคทรอนิคส์ต่างๆ ออก วางให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อป้องกันความเสียหาย
การมีสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่หากเริ่มมีอาการออฟฟิศซินโดรม ชาตามมือ นิ้วมือ และเท้าควรปรึกษาแพทย์เพื่อได้รับคำแนะนำและทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูอาการอย่างเหมาะสม