อาการของ TFCC injury ที่สังเกตได้ง่ายๆ มีดังนี้ครับ:

• ปวดข้อมือฝั่งนิ้วก้อย: นี่คืออาการหลักที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะเวลาบิดข้อมือ (เช่น บิดลูกบิดประตู), ยกของหนัก, หรือใช้มือลงน้ำหนัก (เช่น ท่าดันพื้น)
• มีเสียงคลิก หรือเสียงก๊อกแก๊ก: เวลาที่คุณหมุนข้อมือ หรือขยับแขน อาจได้ยินเสียงแปลกๆ เหล่านี้
• ข้อมือรู้สึกไม่มั่นคง: อาจรู้สึกว่าข้อมือหลวมๆ หรือไม่แข็งแรงเหมือนเดิม
• แรงบีบมือลดลง: คุณอาจจะรู้สึกว่าไม่มีแรงบีบจับสิ่งของได้แน่นเหมือนเมื่อก่อน
• เคลื่อนไหวข้อมือลำบาก: การหงายมือ คว่ำมือ หรือขยับข้อมือไปมา อาจทำได้ไม่เต็มที่ หรือมีอาการปวด
• อาการบวม: อาจมีการบวมเล็กน้อยบริเวณข้อมือฝั่งนิ้วก้อย

สาเหตุหลักๆ ของการบาดเจ็บ TFCC:

• การบาดเจ็บเฉียบพลัน: เช่น หกล้มมือยันพื้นในท่าข้อมือบิด หรือมีการบิดข้อมืออย่างรุนแรงและฉับพลัน
• การใช้งานซ้ำๆ หรือความเสื่อม
• เกิดจากการใช้งานข้อมือหนักๆ ซ้ำๆ เป็นเวลานาน เช่น นักกีฬาที่ต้องใช้ข้อมือบิดบ่อยๆ (เทนนิส, กอล์ฟ) หรือผู้สูงอายุที่มีการเสื่อมของข้อตามวัย

การรักษา TFCC injury ด้วยกายภาพบำบัด

มีเป้าหมายหลักคือการลดอาการปวด ลดการอักเสบ เพิ่มการเคลื่อนไหวและความแข็งแรงของข้อมือ รวมถึงป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำครับ โดยนักกายภาพบำบัดจะประเมินอาการของคุณอย่างละเอียดก่อน เพื่อออกแบบโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งอาจประกอบด้วย:

1. การควบคุมความเจ็บปวดและการอักเสบ (Pain and Inflammation Management):

• การประคบเย็น/ร้อน: ในระยะเฉียบพลันที่มีการอักเสบ นั
• การใช้อุปกรณ์พยุง (Splint/Brace): อาจมีการใช้อุปกรณ์พยุงข้อมือ หรือสายรัดข้อมือชนิดพิเศษ (เช่น wrist widget) เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อต่อที่เกี่ยวข้อง และช่วยให้ TFCC ได้พักฟื้น
• เครื่องมือทางกายภาพบำบัด: เช่น การใช้เครื่องอัลตราซาวด์ (Ultrasound), การกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical Stimulation) หรือ เลเซอร์ (Laser) เพื่อช่วยลดปวด ลดอักเสบ และส่งเสริมการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ

2. การฟื้นฟูการเคลื่อนไหว (Restoring Range of Motion):

• การขยับข้อแบบ Passive Mobilization: นักกายภาพบำบัดจะช่วยขยับข้อมือและข้อต่อที่เกี่ยวข้องเบาๆ เพื่อคงพิสัยการเคลื่อนไหว และป้องกันการเกิดข้อติดแข็ง
• การออกกำลังกายเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหว (Active Range of Motion Exercises): เมื่ออาการปวดลดลง จะเริ่มมีการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อมือและนิ้วมืออย่างช้าๆ

3. การเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคง (Strengthening and Stability):

• การออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ: เมื่อการเคลื่อนไหวดีขึ้นและอาการปวดลดลง จะเริ่มออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อมือและแขน โดยเน้นกล้ามเนื้อที่ช่วยพยุง TFCC และข้อต่อที่เกี่ยวข้อง

4. การปรับพฤติกรรมและการให้ความรู้ (Activity Modification and Education):

• การวิเคราะห์ท่าทางการใช้งาน: นักกายภาพบำบัดจะช่วยวิเคราะห์กิจกรรมที่คุณทำในชีวิตประจำวันหรือในการทำงาน ที่อาจเป็นสาเหตุหรือทำให้ TFCC ได้รับบาดเจ็บ
• ให้คำแนะนำในการปรับท่าทาง: เช่น ท่าทางการจับสิ่งของ, ท่าทางการยกของ, หรือการใช้เครื่องมือต่างๆ ให้ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อลดแรงกระทำต่อ TFCC
• การป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ: สอนวิธีการดูแลตัวเอง การออกกำลังกายที่ทำได้เองที่บ้าน และสัญญาณเตือนที่ควรกลับมาพบนักกายภาพบำบัด

รักษากับเรา

• นักกายภาพ ประสบการณ์สูง
• วินิจฉัยแม่นยำ

รักษาด้วย

• เทคนิคหัตถการเฉพาะ 𝐌𝐨𝐛𝐢𝐥𝐢𝐳𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧**
  ที่ไม่เหมือนทีไหน
• ออกแบบท่าบริหารเฉพาะบุคคล เน้นกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงหรือหดรั้งเพื่อ ลดอาการปวดและปรับบุคลิกภาพในระยะยาว
• ดูแลให้แน่ใจ ว่าปัญหาของคุณดีขึ้นทั้งจากสาเหตุและปลายเหตุ จนคุณไม่จำเป็นต้องกลับมาหาเราอีกเลย

_______________________________
** 𝙇𝙤𝙘𝙖𝙩𝙞𝙤𝙣 𝘾𝙡𝙞𝙣𝙞𝙘
📍 ปักหมุด Bodyset คลินิกกายภาพบำบัด
(ตั้งอยู่ สาทร ถนนเย็นอากาศ ข้างรร.อนุบาลสานฝัน)
🚘: ที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย
สามารถจอดหน้าคลินิกได้เลย
.
❣️ ติดต่อนัดหมาย/สอบถาม
📞092-663-5959
📞093-689-6656
Line ID: @BODYSET
.
👥 สามารถนัดหมายพูดคุย ปรึกษาอาการฟรีกับนักกายภาพบำบัด
🕘:เปิดทุกวันเวลา 9:00-20:00น.
www.bodysetth.com

#คลินิกกายภาพบำบัด #ออฟฟิศซินโดรม #ปวดคอ #ปวดไหล่ #ปวดหลัง #ปวดคอบ่าไหล #OfficeSyndrom #คอบ่าไหล่ #คอบ่าไหล่ตึง #ปวดหลัง #อาการชา #อัมพฤกษ์อัมพาต #หมอนรองกระดูก #รองช้ำ #นวดรีดเส้น #นวดสปอร์ต #BangkokPhysiotherapy #physicaltherapy #physiotherapy